Thursday, March 20, 2014

ท่าอากาศยานโตเกียวและคันไซ ขั้นตอนในสนามบิน และรถเข้าในเมือง ตั๋วรถไฟเที่ยวในคันไซ

ที่มาจาก http://www.jeducation.com/THAI/prepare/airport.html

ที่มา http://www.tiewyeepoon.com/planning/kansai-tickets/ ตั๋วรถไฟเที่ยวในคันไซ


สนามบินนานาชาติที่ชาวต่างชาติมักจะใช้เดินทางเข้าออกประเทศญี่ปุ่นมี 3 แห่งคือ


New Tokyo International Airport

ท่าอากาศยานนิวโตเกียวอินเตอร์เนชั่นแนล

หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าท่าอากาศยานนาริตะ เพราะตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะนั้น ห่างจากเมืองโตเกียว ประมาณ 60 กม. ท่าอากาศยานนาริตะมีอาคารผู้โดยสารอยู่ 2 อาคารคือ Terminal 1 และ 2 ห่างกันประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางเชื่อมระหว่างกันได้โดย Shuttle Bus ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
Airport Code : NRT
Website : Narita International Airport



Kansai International Airport : OSAKA

ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ
คันไซเป็นท่าอากาศยานใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวโอซาก้า ห่างจากฝั่งทะเล 5 กม. และห่างจากโอซาก้าราว 60 กม.
Airport Code : KIX
Website : Kansai International Airport



Central Japan International Airport ( Centrair ) NAGOYA
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่ อยู่ห่างจากเมืองนาโงย่าประมาณ 40 กม. ถือเป็นสนามบินนานาชาติแห่งสำคัญของภูมิภาคจูบุ เปิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2005 เพื่อรองรับงานนิทรรศการระดับโลก EXPO 2005 AICHI


Airport Code : NGO
Website : Central Japan International Airport







แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
ก่อนจะถึงญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่สายการบินจะแจกแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น และใบแสดงสินค้าของศุลกากรให้คุณกรอกตั้งแต่อยู่บนเครื่อง ทางด้านบนของแผ่นเล็กซ้ายมือ (ในภาพ) จะเขียนว่า EMBARKATION CARD FOR FOREIGNER หมายถึง บัตรขาออกของชาวต่างชาติ ส่วนทางด้านบนของแผ่นใหญ่ทางขวามือจะเขียนว่า DISEMBARKATION CARD FOR FOREIGNER คือบัตรขาเข้าสำหรับชาวต่างชาติ
กรอกข้อความด้วยภาษาอังกฤษและลงลายมือชื่อแบบเดียวกับในหนังสือเดินทาง
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย


การกรอกข้อความสำหรับบัตรขาเข้า ( แผ่นใหญ่ด้านขวามือ )
Family Nameนามสกุล เขียนให้ตรงกับหนังสือเดินทาง
Given Nameชื่อตัว เขียนให้ตรงกับหนังสือเดินทาง
Nationalityสัญชาติ กรอก Thai
Date of Birthวันเดือนปีเกิด ใส่เป็นตัวเลข 2 หลัก , ปีเกิดใช้ปี ค.ศ.
MALE / FEMALEเพศชาย วงเลข 1 , เพศหญิง วงเลข 2
Home Address ที่อยู่ในประเทศไทย
Occupationอาชีพ กรณีที่เป็นนักเรียนกรอก Student
Address in Japanที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น กรอกที่อยู่ที่เราจะไปพักให้ละเอียด
Passport No. หมายเลขหนังสือเดินทาง
Flight No./ Vessel เที่ยวบินที่โดยสารมา เช่น JL 703
Intended Length of stay in Japanระยะเวลาที่จะอยู่ในญี่ปุ่น อย่ากรอกนานเกินกว่าระยะเวลาของวีซ่าที่ได้รับอนุญาต
Port of Embarkationท่าอากาศยานที่เดินทางจากมา เช่น Bangkok
Purpose of visitวัตถุประสงค์ในการมาญี่ปุ่น เขียนให้ตรงกับประเภทวีซ่าที่ได้รับ
Signatureลายเซ็นต์ แบบเดียวกับที่เซ็นต์ในหนังสือเดินทาง



ขั้นตอนการเข้าประเทศญี่ปุ่น

เมื่อเครื่องจอดสนิทแล้ว ก่อนลงจากเครื่องอย่าลืมตรวจเช็คสิ่งของสัมภาระที่หิ้วขึ้นเครื่องมาด้วย จากนั้นจึงลงจากเครื่องเดินไปตามลูกศร ซึ่งจะผ่านด่านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้



ด่านกักกันโรคระบาด ( Quarantine Declaration )

ปัจจุบัน สำหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องกรอกแบบสอบถามที่ด่านนี้



ด่านตรวจคนเข้าเมือง ( Immigration Inspection )

ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะมีช่องต่าง ๆ หลายช่อง โดยแยกช่องสำหรับคนญี่ปุ่น ช่องสำหรับลูกเรือ และช่องสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งจะต้องเข้าไปต่อคิวที่ช่อง Foreign passports นี้

เมื่อถึงคิวของนักศึกษา ให้ยื่นหนังสือเดินทาง พร้อมแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองที่กรอกเสร็จเรียบร้อยแล้วแก่เจ้าหน้าที่ ที่นี่เจ้าหน้าที่จะสอบถามรายละเอียดบางอย่างเช่น วัตถุประสงค์ในการมาญี่ปุ่น , ที่พักในญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งนักศึกษาควรจะเตรียมใบรับรองการเข้าศึกษาจากสถาบัน , ใบรับรองสถานภาพการอยู่อาศัย , หรือจดหมายรับรองที่พักในญี่ปุ่นไว้ให้เรียบร้อย เผื่อแสดงเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็ค หากไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่จะประทับตราซึ่งจะระบุสถานภาพการอยู่อาศัย และระยะเวลาที่อนุญาตให้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น โดยจะนับจากวันที่ประทับตรานี้เป็นต้นไป



ลานรับกระเป๋าสัมภาระ ( Baggage Claim )

เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ก็จะไปรับกระเป๋าสัมภาระที่ช่องสายพาน ซึ่งระบุสายการบินและเที่ยวบินที่นักศึกษาโดยสารมา มีรถเข็นไว้ให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย



ด่านกักกันพืชและสัตว์ ( Plants and Animal Quarantine Inspection )

สำหรับผู้ที่นำสัตว์หรือพืชเข้ายังประเทศญี่ปุ่น ก็จะต้องผ่านการตรวจเช็คและควบคุมเชื้อโรค ของพืชและสัตว์ก่อนที่จะไปยังด่านศุลกากร



ศุลกากร ( Customs Inspection )

ก่อนที่จะนำกระเป๋าออกจากสนามบิน เพื่อเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้น จะต้องผ่านด่านศุลกากร ซึ่งจะแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนสีแดงสำหรับผู้ที่มีสิ่งของต้องสำแดง กับส่วนสีเขียวสำหรับผู้ที่ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง

เจ้าหน้าที่จะตรวจเช็คสิ่งของที่นำเข้าประเทศว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามหรือไม่ รวมถึงจำนวนสิ่งของที่นำเข้าบางอย่างที่มีการจำกัดปริมาณการนำเข้า เช่น เหล้า บุหรี่ น้ำหอม ของที่ระลึก หากตีราคารวมกันแล้วเกินกำหนดก็จะต้องเสียภาษี เมื่อออกจากด่านศุลกากรแล้ว ก็เป็นอันเสร็จพิธีการเข้าเมือง



ห้องผู้โดยสารขาเข้า (Arrival Lobby )

เมื่อผ่านด่านทั้งหมดออกมาแล้ว จะออกมาที่ห้องผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งผู้มารับมักจะชู
ป้ายชื่อคอยอยู่ที่บริเวณนี้ แต่ถ้าไม่มีคนมารับ นักศึกษาสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น รถไฟ , รถลิมูซีนบัส หรือแท็กซี่ ซึ่งที่บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้านี้ จะมีเคาเตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสารต่าง ๆ อยู่ด้วย



เคาท์เตอร์ขายตั๋วรถไฟ
ป้ายบอกทางไปขึ้นรถไฟ


เคาท์เตอร์ขายบัตรรถลิมูซีนบัส
แผนที่บอกเส้นทาง



การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง


New Tokyo International Airport

ท่าอากาศยานนิวโตเกียวอินเตอร์เนชั่นแนล

สำหรับวิธีเดินทางเข้าตัวเมืองนั้นมีหลายวิธี โดยเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 2,000 - 20,000 กว่าเยน ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางและพาหนะที่ใช้ ได้แก่


แทํกซี่
 
การใช้แท็กซี่จะหมดเปลืองเงินมากกว่าวิธีอื่น ๆ เว้นแต่ต้องการความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว จากนาริตะเข้าเมืองโตเกียว จะทำให้ต้องควักกระเป๋าราว ๆ 25,000 เยนหรือมากกว่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ยกเว้นแต่หากเจอช่วงจราจรติดขัด ก็จะทำให้ใช้เวลาเพิ่มขึ้น แท็กซี่ทุกคันในญี่ปุ่น มีป้ายทะเบียนสีเขียวและโปรดระวังอย่าใช้แท็กซี่ที่ไม่ได้จดทะเบียน
 
 
รถบัส
 
บริการรถบัสจากสนามบินเข้าตัวเมืองโตเกียว มีสองประเภทคือ Airport Limousine Bus และ Airport Shuttle Bus ทั้งสองประเภทนี้มีจุดหมายปลายทางอยู่หลายจุด
และจะจอดที่จุดหมายปลายทางที่กำหนดเท่านั้น ไม่แวะจอดระหว่างทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที ค่าโดยสารประมาณ 2,400 - 3,800 เยนขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทาง

ลีมูซีน บัส เป็นวิธีการเดินทางเข้าตัวเมืองโตเกียวที่สะดวกวิธีหนึ่ง โดยไปลงที่ปลายทางคือ โตเกียวซิตี้แอร์ เทอร์มินัล หรือ ทีแคท (Tokyo City Air Terminal หรือ TCAT ) โดยสามารถบรรทุกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปกับรถลีมูซีนบัสได้ด้วย ( เพราะหากกระเป๋าเดินทางที่มีขนาดใหญ่มาก อาจจะหาแท็กซี่ได้ยากสำหรับการเดินทางช่วงสั้น )

ลีมูซีนบัส มีความสะดวกสบายด้วยที่นั่งปรับเอนได้ และกระจกหน้าต่างที่กว้าง เหมาะสำหรับชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง จะมาจอดรับผู้โดยสารที่ริมฟุตบาธ ด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาเข้า และตั้งต้นเดินทางจากจุดนั้น การซื้อบัตรลีมูซีนบัส ซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ในห้องผู้โดยสารขาเข้า ก่อนออกจากห้องโถงมาขึ้นรถบัสข้างนอก ท่านสามารถเลือกลงจุดที่ใกล้ที่สุดกับที่พัก แล้วเดินทางต่อด้วยแท็กซี่หรือเดิน ลีมูซีนบัสมีจุดหมายปลายทางหลายจุด นอกจากโรงแรมต่าง ๆ ในโตเกียวแล้ว ยังไปสนามบินฮาเนดะ ( สำหรับต่อเครื่องบินในประเทศไปลงเมืองอื่น ๆ ) และยังไปลงที่เมืองโยโกฮาม่าด้วย

นอกจากนั้นยังมีบริการให้คำแนะนำและช่วยเหลือที่เรียกว่า " Meet & Assist " คอยต้อนรับ และให้คำแนะนำจัดหาพาหนะที่เหมาะสมไปยังจุดหมายปลายทาง เคาเตอร์บริการนี้จะอยู่ตรงหน้าของหน่วยงานศุลกากร ทั้งด้านเหนือและด้านใต้ของห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า
ตารางเดินรถ จุดหมายปลายทางและค่าโดยสารของลีมูซีนบัส ( ภาษาอังกฤษ , ญี่ปุ่น )
 
รถไฟ
 
การโดยสารโดยรถไฟระหว่างสนามบินและตัวเมืองนั้น เป็นที่นิยมมากวิธีหนึ่งเนื่องจากมีความสะดวกสบาย ใช้ระยะเวลาในการเดินทางที่แน่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องการจราจรติดขัด และมีเนื้อที่กว้างเพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทาง บริษัทที่ดำเนินการมีอยู่ 2 บริษัทคือ JR ( Japan Rail ) และ Keisei Railways อัตราค่าโดยสารตั้งแต่ 1,000 - 6,490 เยน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ จุดหมายปลายทางและชั้นโดยสาร
 
รถไฟ JR  
 
  • JR Narita Express ( NEX )
    บริการเส้นทางระหว่างสนามบินนาริตะกับสถานีหลัก ๆ ของโตเกียวเช่น Shinagawa , Ikebukuro , Shinjuku และแยกไปทาง Ofuna , Yokohama ด้วย ปกติรถจะออกทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง และทุก ๆ 30 นาทีในช่วงเวลาเร่งด่วน สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่สถานี ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของอาคารสนามบินทั้งสองอาคาร ที่นั่งผู้โดยสารจะมีทั้งแบบชั้นธรรมดา , ชั้น 1 และชั้นพิเศษ
  • รถด่วน ( Kaisoku )
    สามารถเดินทางเข้าตัวเมืองได้ด้วยราคาที่ถูกกว่า Narita Express แต่ความสะดวกสบายน้อยกว่า และใช้เวลานานกว่า
ตารางเดินรถ สถานีปลายทางและค่าโดยสารของ JR NEX ( ภาษาอังกฤษ , ญี่ปุ่น )
 Keisei Railways  
 
  • Keisei Skyliner
    บริการเส้นทางระหว่างสนามบินนาริตะ ไปยัง Nippori และ Keisei Ueno ซึ่งสามารถต่อรถไฟ JR Lines หรือรถไฟใต้ดินสายอื่นๆ ได้ ค่าโดยสารจะถูกกว่า JR NEX แต่หากต้องต่อรถก็อาจจะไม่สะดวกนัก สำหรับผู้ที่มีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่หรือหนัก
  • Limited Express
    เป็นพาหนะที่ถูกที่สุดในการเดินทางเข้าเมือง แต่แน่นอนว่าความสะดวกสบายก็ย่อมน้อยลงด้วยเช่นกัน
ตารางเดินรถ สถานีปลายทางและค่าโดยสารของ Keisei Skyliner ( ภาษาอังกฤษ , ญี่ปุ่น )


Kansai International Airport ( KIA )

ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ
สามารถเดินทางไปยังโอซาก้า เกียวโตและโกเบได้โดยสะดวก ด้วยพาหนะต่าง ๆ ดังนี้



ตารางแสดงวิธีเดินทางไป - มาระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกับสถานีรถไฟและดำบล/เมืองต่าง ๆ
พื้นที่
จุดหมายปลายทาง
วิธีเดินทาง
ใช้เวลา ( นาที )
ค่าโดยสาร ( เยน )
โอซาก้า








สถานี JR Shin Osaka
( ผ่านสถานี Tennoji )
JR Limited Express Haruka
48
2,980
ไป Tennoji
30
2,270
JR Rapid Train
70
1,320
ไป Tennoji
45
1,030
แท็กซี่
60
18,000
สถานี JR Osaka
JR Rapid Train
65
1,160
แอร์พอร์ท บัส
65
1,300
แท็กซี่
50
18,000
สถานี Nankai Namba
Nankai Railway
Limited Express Rapit
29
1,400
Express Train
44
890
เกียวโตสถานี JR Kyoto
ผ่านสถานี JR Tennoji และ Shin Osaka
JR Limited Express Haruka
85
3,490
JR Rapid Train
100
1,830
แอร์พอร์ท บัส
105
2,300
โกเบสถานี JR SannomiyaJR Rapid Train
85
1,660
แอร์พอร์ท บัส
75
1,800
แท็กซี่
70
23,000
K- CAT บน Port Islandเรือเร็วเจ็ท-ฟอยล์
27
2,400
ท่าอากาศยาน
โอซาก้า
ท่าอากาศยาน Itami
( แห่งแรกของโอซาก้า )
แอร์พอร์ท บัส
85
1,700

แท็กซี่
80
21,000


การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซเข้าสู่ตัวเมือง ( ภาษาอังกฤษ , ญี่ปุ่น )
ตารางเดินรถ สถานีปลายทางและค่าโดยสารของ JR West ( ภาษาอังกฤษ , ญี่ปุ่น )

No comments:

Post a Comment